"ตัวแทนประกัน" เปรียบเหมือนลูกเมียน้อย เมื่อเทียบกับตัวแทนขายบ้าน ตัวแทนขายรถ ตัวแทนขายสินค้าอื่นๆ

#ออกพบลูกค้าเหมือนทุกวัน
#ยังมีลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลืออีกมากมาย
#แค่ได้เป็นส่วนเล็กๆส่วนนึงที่ได้ไปทำให้ปัญหาและข้อกังวลใจของลูกค้าเบาบางลงบ้าง

ตัวแทนประกัน
#เปรียบเหมือนลูกเมียน้อย
เมื่อเทียบกับตัวแทนขายบ้าน ตัวแทนขายรถ ตัวแทนขายสินค้าอื่นๆ

“”ไม่มีใครอยากเจอพวกเรา
**ไม่มีใครอยากคุยกับพวกเรา

#เพราะสินค้าของเราทดลองใช้ก่อนไม่ได้
#เพราะสินค้าของเราจับต้องไม่ได้มองไม่เห็น

#แต่วันหนึ่งวันใดที่ลูกค้าเจอวิกฤตสูญเสียชีวิตสุญเสียคนที่เค้ารักไป

“พวกเราตัวแทนประกันชีวิตจะเป็นคนที่ลูกค้าอยากเจอมากที่สุดคนหนึ่ง “
>>หลายๆครอบครัวรอพวกเราอย่างมีความหวัง
>>หลายๆครอบครัวเอ่ยปากทั้งน้ำตาขอบคุณพวกเรา ที่พวกเราไม่ยอมแพ้ ที่พวกเราไม่ยอมถอดใจ แม้โดนปฏิเสฐครั้งแล้วครั้งเล่า ในวันแรกๆที่พวกเราเข้าไปหา เข้าไปพูดคุย
>หลายๆครอบครัว เสียใจ ที่ไม่กล้าตัดสินใจปกป้องครอบครัว และคนที่เค้ารัก ไม่ยอมให้พวกเราเอาปัญหาและข้อกังวลใจของพวกเค้า กลับมา พวกเค้าเลือกที่จะแบกเอาไว้เหมือนเดิม ในวันที่เจอพวกเรา

“ครอบครัวคุณ คนที่คุณรัก หากคุณไม่ปกป้อง แล้วมีใครจะปกป้องได้ดีเหมือนคุณบ้าง?”
“ครอบครัวคุณ คนที่คุณรัก ถ้าไม่ปกป้องพวกเค้า “วันนี้” แล้วคุณจะปกป้องพวกเค้าเมื่อไหร่? วันไหน?

ถามใจคุณดู หากคุณไม่อยู่แล้ว
ภรรยาของคุณจะมีชื่อเรียกใหม่ทันทีคือ “แม่หม้าย” ใช่มั้ย?
ลูกๆที่คุณรักจะมีชื่อเรียกใหม่ทันทีคือ “ลูกกำพร้า(พ่อ)” ใช่มั้ย?

>> ถึงเวลาที่คุณและคนที่คุณรักต้องมีประกันแล้วหรือยัง?
หันไปมองดูคนที่คุณรัก แล้วตอบตัวเอง!

#ไม่มีใครรู้ว่าเวลาที่เราใช้ที่ผ่านมากับเวลาที่เรายังอยู่อันไหนจะมากกว่ากัน

*ไม่จำเป็นต้องทำประกันกับผม
*หาตัวแทนที่ไว้ใจได้
*หาตัวแทนที่สามารถดูแลผลประโยชน์ของคุณได้
*ค่อยๆทำ ตามกำลังของคุณ
*อย่างน้อยๆเลย มีประกันอุบัติเหตุไว้สักเล่มก็ยังดี
*พอมีกำลังก็ค่อยทำประกันสุขภาพ วางแผนเกับเงิน วางแผนเกษียณ
*ทำประกันกับบริษัทประกันไหนก็ได้ เพราะแต่ละบริษัทมีมาตรฐาน เงื่อนไข ค่าเบี้ย ใกล้เคียงกัน

ข้อดีของประกันชีวิต ดีอย่างไร