ทำไมประกันถึงสำคัญ?

ทุกคนเคยรู้ไหมว่าประกันมันสำคัญเพียงใด? มีไปทำไม?

ส่วนในความคิดของบางคน ประกันยังไม่จำเป็นต้องใช้เพราะเมื่อยามเจ็บป่วยยังมีเงินจ่าย

ทุกคนเคยรู้ไหมว่าประกันมันสำคัญเพียงใด? มีไปทำไม? ส่วนในความคิดของบางคน ประกันยังไม่จำเป็นต้องใช้เพราะเมื่อยามเจ็บป่วยยังมีเงินจ่าย

ประกันในปัจจุบันนั้น คุณสามารถพบเห็นและเลือกซื้อได้ง่ายและหลากหลายมากขึ้น มีการโฆษณาถึงการคุ้มครองต่างหลังจากเกิดอุบัติเหตุหรือเสียชีวิต

ประกัน คือ การกระจายความเสี่ยง เฉลี่ยความเสียหาย ในทุกกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นการตาย การสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ และการสูญเสียรายได้ในยามชรา

เชื่อว่าทุกคนที่คิดทำประกันชีวิตนั้น ต้องมีการวางแผนอนาคตเอาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าหากเกิดกรณีที่ต้องเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เงินในส่วนที่ตนได้จ่ายเบี้ยประกันให้กับประกันชีวิตไว้นั้นจะต้องสามารถนำมาทดแทนช่วยเหลือและแบ่งเบากับสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา

ทั้งนี้เรามาดูกันว่าสาเหตุที่จูงใจให้คนอยากทำประกันชีวิตนั้น มีอะไรบ้าง

 

1.เพื่อครอบครัว ครอบครัวนั้นคือสิ่งสำคัญที่คอยฉุดรั้งและทำให้เรามีกำลังใจในการทำสิ่งต่างอย่างมากมาย คนจึงมักจะทำเพื่อส่งต่อสิทธิประโยชน์ไปให้ครอบครัวเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ครอบครัวของคุณไม่ต้องเดือดร้อนในภายหลังนั่นเอง
 
2.เพื่อการสะสมทรัพย์ ซึ่งก็ถือเป็นการออมเงินอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเก็บสะสมเงินได้ดี
 
3.เพื่อสร้างสวัสดิการด้านค่ารักษาพยาบาล หากเกิดเหตุฉุกเฉินต้องนอนโรงพยาบาล คุณก็ยังมีเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลให้ เพื่อทดแทนรายได้ที่เสียไป
 
4.เพื่อเป็นทุนสำรองสำหรับการรักษาโรคร้ายแรง ที่ต้องทำการรักษาโรคอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ
 
5.เพื่อเป็นเงินทุนจัดการหลังเสียชีวิต ทำให้ลูกหลานไม่ต้องเดือนร้อน เพราะมีเงินส่วนนี้ช่วยในการจัดงานศพ อีกทั้งยังเหลือเงินก้อนอีกเหลือเฟือให้ลูกหลานได้ใช้จ่ายกันโดยไม่ลำบากอีกด้วย
 
ประกันภัยมีแบบไหนบ้าง?
 
การประกันภัยนั้นมีมากมายหลากหลายประเภท สามารถทำได้ทั้ง ประกันบุคคล ประกันทรัพย์สิน หรือแม้กระทั่งหนี้สินก็สามารถทำประกันภัยได้ เรียกได้ว่าสามารถคุ้มครองได้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวคุณเลย
 
รูปแบบของประกันชีวิตมีด้วยกัน 4 รูปแบบดังนี้
 
1).คุ้มครองแบบตลอดชีพ
เมื่อผู้ทำประกันชีวิตเสียชีวิตด้วยรูปแบบใดๆ ประกันชีวิตจะทำการจ่ายให้ตามที่ได้ตกลงเอาไว้ว่ายกให้ใครเป็นผู้รับประโยชน์ แต่ถ้าหากผู้ทำประกันอยู่จนอายุ 99 ปี บริษัทก็จะให้เงินคืนตามที่ได้ระบุไว้เช่นกัน
 
2).สะสมทรัพย์
บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายค่าประกันให้จนกว่าอายุสัญญาจะครบกำหนด ตามเงือนไขที่ได้ทำการตกลงกันเองไว้ การประกันในรูปแบบนี้เหมือนเป็นการออมทรัพย์ในทางหนึ่ง กล่าวคือเมื่อสัญญาครบกำหนดสามารคเอาเงินคืนได้
 
3).ชั่วระยะเวลา
บริษัทจะจ่ายค่าประกันชีวิตให้กับผู้รับประโยชน์ ต่อเมื่อผู้เอาประกันได้เสียชีวิตตามที่กำหนดเอาไว้ ในเงื่อนไข อย่างเช่น 1 ปี, 5 ปี, 10 ปี หรือ 20 ปี เป็นการคุ้มครองในกรณีการเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว ประกันตัวนี้จะมีเบี้ยส่งที่ถูกกว่าตัวอื่นๆเพราะจะไม่มีการคืนเงินให้เมื่อครบปีที่ทำสัญญาแล้ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำประกันในกรณีที่จะต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควรนั่นเอง
 
4).เงินได้ประจำ
เมื่อผู้ทำประกันมีอายุครบ 55 ปี หรือ 60 ปี ช่วงเกษียณอายุ จะได้รับเงินจากประกันชีวิตเท่ากันอย่างสม่ำเสมอ ประกันภัยตัวนี้เหมาะกับผู้ที่วางแผนอนาคตไว้ในยามแก่ชรา เพื่อให้มีเงินใช้ในช่วงอายุมากแล้วนั่นเอง
 
ในส่วนของประกันสุขภาพนั้น เป็นประกันสำหรับบุคคลอีกแบบหนึ่ง โดยจะมุ้งเน้นไปในส่วนของค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ผู้ทำประกันเกิดความเจ็บป่วย ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งโรคบางโรคนั้นจำต้องใช้เงินในการรักษาพยาบาลสูงมาก คุณอาจจะต้องใช้เงินที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิตหมดไปกับการรักษาเลยก็ได้ การทำประกันสุขภาพก็จะเข้ามารับภาระในการรักษาพยาบาลแทนคุณนั่นเอง
 
เป็นประกันภัยสำหรับบุคคลอีกรูปแบบหนึ่ง ที่จะให้ความคุ้มครองชีวิตและร่างกายของผู้ทำประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทั้งค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินชดเชยกรณีสูญเสียรายได้ เงินชดเชยกรณีสูญเสียอวัยวะ เงินชดเชยในกรณีทุพพลภาพฐาวรสิ้นเชิง รวมไปถึงค่าปลงศพด้วยในกรณีที่เสียชีวิต
 
รถยนต์ถือเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่ง ที่มีราคาและค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูง ทำให้การทำประกันรถยนต์เอาไว้นั้น จะช่วยลดความเสี่ยงทางด้านการเงินของคุณได้ หากเกิดอุบัติเหตุทำให้ต้องซ่อมรถยนต์ ประกันก็จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าซ่อมรถยนต์แทน หรือหากรถยนต์พังยับเยินทั้งคัน เกิดไฟไหม้ หรือเกิดสูญหาย โดยที่ยังผ่อนไม่หมดด้วยซ้ำ ประกันรถยนต์ก็จะเป็นผู้รับผิดชอบค่างวดที่ยังค้างอยู่แทนทั้งหมด หรืออาจจะมีส่วนต่างที่คุณต้องจ่ายเพิ่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยประกันรถยนต์ยังคุ้มครองไปยังคู่กรณีด้วย ทำให้หากแม้ว่าคุณเป็นฝ่ายผิดในอุบัติเหตุ คุณก็ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายต่าง ๆ ให้กับคู่กรณีด้วยตัวเอง
 
คุณคงเคยได้ยินคำโบราณที่กล่าวว่า โจรปล้นสิบครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว เพราะมันทำให้คุณหมดสิ้นเนื้อประดาตัวไปเลย แต่เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นกับผู้ที่ทำประกันบ้านเอาไว้ เพราะหากเกิดเหตุไฟไหม้บ้าน ฟ้าผ่า ยานพาหนะเฉี่ยวชน ภัยจากเครื่องบิน หรือแม้กระทั่งน้ำท่วม รวมถึงภัยธรรมชาติอื่น ๆ คุณก็จะได้รับเงินชดเชยตามที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ เพื่อใช้เป็นทุนในการดำเนินชีวิตและหาที่อยู่อาศัยใหม่ต่อไปนั่นเอง
 
ประกันภาระหนี้เป็นประกันสำหรับคุ้มครองสินเชื่อต่าง ๆ ของผู้ทำประกัน เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ ทำให้หากผู้ทำประกันเสียชีวิตขึ้นมา ประกันภัยก็จะรับผิดชอบในการชำระหนี้สินที่เหลืออยู่ต่อไป และส่งผลให้สมาชิกในครอบครัวที่อยู่ข้างหลังไม่ต้องมาเดือดร้อนแบกรับภาระสินเชื่อดังกล่าวต่อจากผู้ทำประกัน ซึ่งประกันคุ้มครองภาระหนี้นี้เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัว
 
เหตุการณ์ในอนาคตตัวเราไม่มีวันล่วงรู้
อย่างเช่น เหตุการณ์ที่เกิดจากคนรู้จักซึ่งเหตุการณ์นี้มันเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจดิฉันมาก เหตุการณ์เกิดจากคืนวันฝนตก เขาขับรถกลับบ้านแต่ถนนลื่นทำไมรถเสียหลัก และตอนนั้นมีรถพ่วงขับมาพอดี ทำให้รถพ่วงพุ่งชนกับรถของเขา แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เขาเสียชีวิต ซึ่งเขาเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวนี้แล้วเขาก็มีลูกชายอายุ 3ขวบ
แต่เพราะเขาได้ทำประกันไว้ทำให้ครอบครัวไม่ต้องเดือนร้อน เพราะมีเงินส่วนนี้ช่วยในการจัดงานศพ อีกทั้งยังเหลือเงินก้อนอีกเหลือเฟือให้ลูกหลานได้ใช้จ่ายกันโดยไม่ลำบากอีกด้วย
 
ถ้าเปรียบประกันกับสิ่งของ ประกันเปรียบเสมือนยาสามัญประจำบ้าน ที่เรามีไว้ในยามจำเป็นแต่ไม่อยากใช้มัน
 
อย่ารอให้สูญเสียก่อน แล้วถึงจะรู้ว่ามันสำคัญ