ทำไมประกันถึงสำคัญ?

#คุณเคยเจอสถานการณ์แบบนี้มั้ย?

## ทำประกันไว้แล้วพอไปโรงพยาบาลแล้วทำไม? ยังต้องควักเงินสำรองจ่ายไปก่อน
## ทำไม่? โรงพยาบาลนี้ไม่รับทำการรักษาให้ทั้งๆที่มีประกันอยู่แท้ๆ
## ทำไม? มีประกันอยู่แต่การรักษาพยาบาลไม่เหมือนกันกับคนอื่น
## ทำไม? เข้ารับการรักษาพยาบาลแล้วทำเคลมเบิกเงินคืนไม่ได้
## ทำไม? เข้ารับการรักษาพยาบาลถ้าหมอให้นอนโรงพยาบาลแล้วจะได้เงินคืนส่วนไหนบ้าง?
## เป็นโรคนี้ แล้วประกันจะคุ้มครองหรือเปล่า? ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเองหรือประกันจ่ายให้
## สถานการณ์อื่นๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ

#ก่อนที่คุณจะทำประกันคุณรู้แล้วใช่มั้ยว่า
## คุณกำลังทำประกันแบบไหน?
## คุณกำลังทำประกันเพื่อแก้ไขข้อกังวลใจหรือแก้ปัญหาอะไร?
## คุณเชื่อว่าประกันจะช่วยคุณได้จริงๆ?

#คุณเข้าใจแบบนี้อยู่หรือเปล่า?
## การที่จะให้ประกันคุ้มครองในเกือบทุกเรื่องที่คุณกังวลใจ และหวังว่าจะให้ประกันแก้ปัญหาเหล่านั้นของคุณได้
*คุณต้องแลกด้วยบางอย่างเสมอ นั่นก็คือ “#เบี้ยประกัน”

#คุณคิดว่าการจ่ายเบี้ยประกันแบบขอราคาไม่แพง ราคาถูกๆ นั้น จะมีจริงๆใช่มั้ย? ที่จะให้คุ้มครองแบบครอบคลุมในทุกเรื่องที่คุณกังวล และตอบโจทย์การแก้ปัญหาให้คุณได้ ด้วยการจ่ายเบี้ยถูกๆ “#คุณคิดว่ามันมีจริงๆหรือ?”

*คุณคิดว่าถ้าคุณอยากได้รถสปอร์ตราคาหลายๆล้าน มีพนักงานมาบอกว่าคุณสามารถซื้อได้ในราคา ไม่กี่พันบาท มันมีจริงๆหรือ?

*คุณคิดว่าถ้าคุณจ่ายเบี้ยราคาหลักพัน แล้วจะคุ้มครองแบบครอบคลุมทั้งทุนประกันหลักหลายๆล้าน และคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทุกอย่าง อย่างที่คุณอยากได้ คุณคิดว่ามันมีจริงๆหรือ?

*คุณมั่นใจจริงๆแล้วใช่มั้ยว่า ประกันที่คุณถืออยู่ ทำไว้หลายๆเล่มแล้ว มันตอบโจทย์ หรือครอบคลุม ในเรื่องที่คุณต้องการแล้วจริงๆ

*คุณมั่นใจจริงๆแล้วใช่มั้ยว่า ยังมีคนดูแลผลประโยชน์ในกรมธรรม์ของคุณอยู่ ตัวแทนยังไม่ไปทำอาชีพอื่น หรือตายจากอาชีพไปแล้ว หรือย้ายบริษัทประกันไปแล้ว

#คุณรู้แล้วใช่มั้ยว่า
*ทำไมแต่ละช่วงอายุ ถึงเบี้ยจ่ายไม่เท่ากัน ทำไมเด็กกับคนมีอายุ ถึงต้องจ่ายเบี้ยสูงกว่าคนวัยทำงาน

#คุณรู้แล้วใช้มั้ยว่า
*ทำไมเพศหญิงเพศชาย เบี้ยก็ไม่เท่ากัน

#คุณรู้แล้วใช่มั้ยว่า
*แม้แต่คนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ กับคนที่ไม่ขับขี่รถจักรยานยนต์ เบี้ยก็ไม่เท่ากัน

#คุณรู้แล้วใช้มั้ยว่า
*อาชีพต่างกัน การจ่ายเบี้ยก็ไม่เท่ากัน
*คนสูบบุหรี่ กินเหล้า กับคนไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า เบี้ยยังไม่เท่ากัน
*คนที่มีโรคประจำตัว 1,2,3,4 กับคนที่ไม่มีโรคประจำตัวเลย เบี้ยก็ต่างกัน
*คนที่น้ำหนักเยอะ ความสูงกับน้ำหนักกับอายุ ไม่สัมพันธ์กัน การจ่ายเบี้ยก็ไม่เท่ากัน
*อื่นๆอีก แต่ละคนไม่เหมือนกัน

#แม้แต่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆแบบนี้
*ยังมีผลต่อการคำนวณเบี้ยประกัน
*ยังมีผลต่อการที่บริษัทจะรับ หรือปฎิเสธไม่รับทำประกันให้คุณเลย
*ยังมีผลต่อการเพิ่มเบี้ยประกัน หรือลดทุนประกันเลย

น่าเสียดายถ้าคุณได้รู้ก่อนคุณคงเลือกทำประกันได้ดีกว่านี้

#สำคัญเลยคุณรู้แล้วใช่มั้ยว่า
*ตอนนี้มีวิธีการจ่ายเบี้ยเข้าบริษัทประกันโดยตรงแบบออนไลน์ โดยที่คุณไม่ต้องเอาเงินจ่ายเบี้ยผ่านตัวแทนของคุณแล้ว

*การพิจารณาว่ากรณีที่คุณจะทำประกัน โดยยื่นคำร้องผ่านแบบฟอร์มที่ตัวแทนกรอกและส่งเข้าบริษัทนั้น “ทางบริษัทประกันจะรับ หรือปฏิเสธไม่รับประกันของคุณ #ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูดหรือการการันตีของตัวแทนแต่อย่างใด ต้องผ่านการพิจารณาจากฝ่ายพิจารณาของบริษัทประกันเท่านั้น”

*ดังนั้นเบี้ยจะถูกหรือจะแพง ในที่สุดแล้ว
>>ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลขที่ตัวแทนบอกหรือคำนวณให้. ตัวเลขที่คำนวณจะเป็นตัวเลขคร่าวๆแต่ใกล้เคียงมาตรฐานของบริษัท
>>บริษัทประกันอาจมีปรับ #เพิ่มเบี้ยหรือลดเบี้ยประกันในบางกรณี เช่นน้ำหนักเยอะไป อาชีพมีความเสี่ยงเกินไป ทุนประกันสูงเกินไป เป็นต้น
>>หรือเบี้ยตรงตามตัวเลขที่ตัวแทนคำนวณให้เลยก็ได้

#คุณมั่นใจแล้วใช่มั้ยครับว่า
>>ผลประโยชน์ทั้งหมดของคุณที่คุณควรได้รับ
>>ข้อมูลที่คุณสงสัยและอยากถาม เพื่อจะได้รู้และทำความเข้าใจ
>>คุณจ่ายเบี้ยไปแล้วมันจะคุ้มค่าหรือเปล่า

**คุณแน่ใจจริงๆหรือ ว่าคุณไม่ต้องการให้ตัวแทนดูแลจริงๆ
**คุณแน่ใจจริงๆหรือ ว่าคุณไม่อยากให้ตัวแทนเข้าไปพบคุณก่อน เพื่อพูดคุย จริงๆ เพื่อให้คุณสแกนก่อนว่าคุณจะไว้ใจตัวแทนคนนั้นได้หรือเปล่า?
**คุณแน่ใจจริงๆแล้วใช่มั้ย ว่าคุณต้องการแค่ Comments ใต้โพสต์ ที่ไม่มีข้อมูลเชิงลึก และรายละเอียดอะไร จริงๆ
**คุณแน่ใจจริงๆแล้วใช่มั้ย ว่าหากคุณทำประกันไปแล้ว หากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมา คุณจะสามารถติดต่อประสานงานในเรื่องต่างๆ กับทางบริษัทประกันได้ด้วยตัวเอง และจะได้การบริการที่ดีกลับมา โดยไม่ต้องผ่านตัวแทนที่คุณเลือกเอง ตัวแทนที่คุณไว้ใจ