การตั้งราคาหรือการบวกกำไรสินค้า สำหรับร้านค้าปลีก

การตั้งราคาหรือการบวกกำไรสินค้า สำหรับร้านค้าปลีก

การตั้งราคาสินค้านั้นถือเป็นเรื่องที่น่าหนักใจอีกหนึ่งเรื่องในการขายสินค้า เพราะบางทีการตั้งราคาถือเป็นการเดาใจลูกค้าอย่างหนึ่ง ถ้าตั้งราคาต่ำเกินไป กำไรก็ได้ไม่มาก แต่ถ้าตั้งราคาสูงไป ก็ขายไม่ออกอีก การเข้าใจลูกค้าถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เรามีหลักเกณฑ์ในการตั้งราคาได้เหมาะสมสำหรับลูกค้า

 

ลูกค้าส่วนมากชอบที่ของดีราคาถูก โดยทั่วไปเราอาจจะคิดถึงการใช้วิธีตัดราคาสินค้าสู้กับคู่แข่งให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะต่ำได้ แต่วิธีการสู้กันด้วยราคาต่ำๆ อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดเสมอไป

การตั้งราคาที่เหมาะสมเพื่อ
1.ดึงดูดลูกค้า เพิ่มรายได้ ให้ขายดี และมีกกำไรยิ่งขึ้น
2.เพื่อให้ไม่ให้เสียเปรียบคู่แข่ง
3.เพื่อให้รายได้มีเพียงพอ ที่จะเลี้ยงชีพของผู้ค้า
การตั้งราคาสินค้าที่ผมจะกล่าวมานี้ เป็นประสบการณ์ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว บวกกับการคำนวณราคาตามหลักทั่วๆไป อาจจะเป็นการคิด การคำนวณทีไม่ได้ตามหลักวิชาการเป๊ะๆเลยนะ
การคิดหรือการบวกราคาสินค้า ควรอยู่ในเกณฑ์ ที่ 20%
การบวก 20% เพิ่มจากทุนของสินค้า จะเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทางไปซื้อของ ค่าขนส่งและค่าใช่จ่ายอื่นๆ ค่าดำเนินการในการขาย
การคำนวณส่วนมากจะคิดกันเป็นรูปแบบ เปอร์เซ็น
ถ้าเรามีคู่แข่งที่ขายถูกกว่าเรา และเราต้องบวกกำไรให้ต่ำกว่า 20% ก็ได้ แต่ถ้าเราลดราคาลงมาแล้ว สินค้าเราควรต้องขายดีขึ้นด้วยแล้วเราควรไปหาบวกเพิ่มเกิน 20% จากสินค้าที่ไม่มีการแช่งขันหรือการเปรียบเทียบราคากัน
สินค้าหลายๆอย่างที่มีการแช่งขันกันสูงหรือทั่วไปเขาที่ต้องขายกันในราคานี้ เราไม่สามารถจะคิดบวกที่ 20%ได้ เช่น เหล้า เบียร์ บุหรี่ เครื่องปรุงรสของยี่ห้อดัง บัตรเติมเงิน การเติมเงินออนไลน์ ฯลฯ
สินค้าที่มีราคาติดระบุไว้ที่ฉลาก อันนี้เราไม่ต้อง บวกเอง 20%
แต่ถ้าไม่มีราคาขายปลีกกำกับมาที่ฉลาก เราก็บวก 20%(จะสูงหรือต่ำกว่านี้ก็ได้)
สินค้าที่ไม่มีราติดเอาไว้ หลายๆชนิด อย่างเช่น M150 กระทิงแดง คาราบาว น้ำอัดลม ฯลฯ อันนี้เราต้องรู้ว่าราคาในท้องตลาดเขาขายกันที่ราคาเท่าไหร่ เราจะมาบวก 20%เองก็ไม่ได้ เราต้องขายให้เหมือนๆเขา หรือจะขายถูกกว่านี้ก็ได้ ถ้าต้นทุนเราได้มาถูกกว่าแหล่งขายส่งทั่วไป
ถ้าสินค้าที่คู่แข่งน้อย -สินค้าออกช้ามาก-สินค้าที่ลูกค้าไม่สามารถจะเอามาเปรียบเทียบราคาได้ ว่าร้านอื่นเขาขายกันเท่าไหร่ อันนี้ บวกเกิน 20% – 100% ก็ได้
ตัวอย่างการคำนวณหาราคาขายปลีก
ตันทุนสินค้า(รวมvatแล้ว) x 20% = ราคาขายปลีก
หรือการคำนวณให้สินค้าได้กำไร 20% แบบไม่ต้องใช้เครื่องคิดเลข
ให้เราเอาจำนวนที่ 12ชิ้นหรือ 1โหล มาเป็นหลักการคำนวณ
สมมุติ สินค้า 1โหล ราคา 50บาท เราก็มาขายชิ้นละ 5บาท
สินค้า 1โหล ราคา 125บาท เราก็มาขายปลีก 13บาท
เราก็จะขายปลีกที่ได้ กำไร ไม่ต่ำกว่า 20%
พวกร้านที่พึ่งเปิดใหม่ ผู้ขายมือใหม่ ถ้าเราซื้อสินค้ามาเตรียมขายแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะขายราคาที่เท่าไหร่ ก็ให้บวก 20%กับต้นทุนของสินค้า ไปเป็นเกณฑ์สำหรับนำไปขายปลีกเอาไว้ก่อน
ถ้าขายไปได้ระยะหนึ่งแล้วมีความรู้สึกว่า ลูกค้าบ่นว่าแพง กว่าที่อื่น
ลูกค้ายังมีมาอุดหนุนกันน้อยไป เราต้องการยอดขายให้มากกว่านี้
ก็ปรับลดกำไรให้ต่ำกว่า 20% เพื่อให้ขายดีขึ้น (การเพิ่มยอดขาย นอกจากการลดราคาสินค้าแล้ว ยังมีอีกหลายวิธีในการเพิ่มยอมขาย เราจึงต้องใช้วิธีอื่นๆมาช่วยด้วย)
การที่ต้องปรับลดราคาสินค้าลง เราควร
-หาแหล่งสินค้าที่ถูกกว่าแหล่งเดิม
-ซื้อสินค้าจากแหล่งเดิม เช่นซื้อจากเซลล์ หรือร้านขายส่ง ถ้าเราต้องการสินค้าให้ถูกกว่านี้ เราก็ถามเขาว่า ถ้าซื้อรายการเยอะกว่านี้มีส่วนลดให้อีกไหม
-จับสินค้าจากแหล่งขายส่งที่เขามีโปรลด แลก แจก แถม

-ไปเพิ่มราคาสินค้าตัวอื่นๆ คือลดตัวนี้ แต่ไปเพิ่มอีกตัว

ໂປແກມຮ້ານຂາຍເຄຶ່ອງຍ່ອຍ ແລະ ຂາຍສົ່ງ
ໂປແກມຮ້ານຂາຍເຄຶ່ອງຍ່ອຍ ແລະ ຂາຍສົ່ງ
ໂປແກມຮ້ານຂາຍເຄຶ່ອງຍ່ອຍ ແລະ ຂາຍສົ່ງ

สนใจติดต่อทางเราได้ครับ หรือไลน์ @qnc3221v ตลอดเวลา ทุกวันครับผม
บริการหลังการขายเป็นกันเอง ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติมแต่อย่างใด
พร้อมอัพเดตฟรี ตลอดชีพ

www.deejaisoft.com

โปรแกรม POS อันดับ 1 ของไทย ที่มีร้านค้าใช้มากที่สุด กว่า 45,000 ร้านค้าทั่วประเทศ และ มี User Login เข้าใช้งาน jPOS Online เกิน 500,000 User ต่อวัน

แสดงความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *