ความรู้ชาวโชห่วย การจัดเรียงสินค้า สำหรับร้านขายของเปิดใหม่

ความรู้ชาวโชห่วย การจัดเรียงสินค้า สำหรับร้านขายของเปิดใหม่

 

1. จุดที่เด่นที่สุดของชั้นวางสินค้าก็คือระดับสายตาของลูกค้า เช่น ถ้าเป็นระดับสายตาที่ต้องการขายให้เด็กเล็กก็สามารถเลือกสินค้าเองได้ก็น่าจะอยู่ชั้นที่ต่ำกว่า สายตาของผู้ใหญ่ลงไปอีก
 
2. จัดแบ่งพื้นที่ให้สินค้าวางโชว์อยู่ในชั้นวางสินค้าให้เหมาะสมกับยอดขายที่คาดว่าจะขายได้ และตามอัตราผลกำไรที่จะได้รับโดยรวมด้วย
 
3. สินค้าควรจะต้องมีให้เห็นเพื่อขายอยู่บนชั้นวางสินค้าตลอดเวลาเพื่อไม่ให้โอกาสในการขาย
 
4. กรณีที่สินค้าขาดหายไป จงอย่าเลื่อนเอาสินค้าตัวอื่นมาแทนที่เนื่องจากจะทำให้ลืมได้ว่าตรงบริเวณนั้นสินค้าขาดไป และจะต้องรีบนำมาเติมให้เต็มพื้นที่ที่ จัดเตรียมไว้โดยเร็วที่สุด
 
5. ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายหรือสลับที่กันกับสินค้าตัวอื่น ๆ ควรจะต้องมีการศึกษาและปรึกษาหารือร่วมกันระหว่างทางฝ่ายจัดซื้อและทางหน้าร้านก่อน จึงจะให้ ทำการย้ายจุดได้
 
6. ควรมีการปรับปรุงจุดที่จัดวางสินค้าบนชั้นวางสินค้าใหม่ในทุก ๆ 3 เดือน เพื่อคอยสอดส่องดูว่าผลการดำเนินงานหรือยอดขายและกำไรต่อพื้นที่การขาย ของสินค้าแต่และตัวนั้นเหมาะสมอยู่หรือไม่
 
7. การเติมสินค้าบนชั้นวางสินค้า ให้นำสินค้าเก่าที่มีอยู่ยกยอดออกมาให้หมดก่อนแล้วจึงเติมสินค้าใหม่จากด้านหลังมา ทั้งนี้จะช่วยในการบริหารสินค้าที่นำมา วางจำหน่ายไม่ให้มีสินค้าเก่าเก็บเหลืออยู่ในชั้นวางสินค้านานจนเกินไป
 
8. ชั้นวางสินค้าไม่ควรมีฝุ่นละอองจับ ไม่ว่าจะเป็นที่ตัวชั้นวางสินค้าเองหรือที่ตัวสินค้า
 
9. เมื่อสินค้าใหม่เข้ามา ควรรีบนำขึ้นวางสินค้าในทันที
 
10. จัดสินค้าให้แยกตามประเภทของสินค้าและให้เป็นตามแนวดิ่งจากชั้นล่างขึ้นบน หรือจากบนลงล่าง
 
11. สินค้ายี่ห้อที่เป็นที่นิยมให้จัดอยู่ในระดับสายตา ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ก่อนและเลือกหยิบซื้อได้โดยเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาหานาน
 
12. สินค้าประเภทที่ “ไม่เห็นไม่ซื้อ” หรือลูกค้าไม่เคยมีความคิดจะซื้ออยู่เมนูการจับจ่ายซื้อของเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว จงพยายามจัดเอาสินค้าประเภทนี้ วางให้กับสินค้าชนิดที่ขายดีหรือเป็นที่ต้องการของลูกค้า
 
13. กรณีสินค้านั้น ๆ มีหลายขนาด ให้จัดสินค้าเป็นแนวดิ่ง คือให้ขนาดเล็กอยู่บน ขนาดใหญ่อยู่ล่าง เวลาจัดชั้นวางสินค้าพนักงานขายจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก ในการหยิบยกสินค้าขนาดใหญ่ ๆ ไปไว้ข้างบน และลูกค้าเวลาเลือกหยิบจากชั้นวางสินค้าก็จะได้ไม่ต้องกลัวว่าสินค้าจะตกลงมาใส่หัว
 
14. ถ้าขนาดใดขายดี ให้เพิ่มพื้นที่ในชั้นวางสินค้าหรือขยายเพิ่มชั้นวาง 2 ชั้นขึ้นไป
 
15. ถ้าสินค้าประเภทนั้นมีเพียง 2 ยี่ห้อ และมีเพียงยี่ห้อละ 2 ขนาด ให้เอายี่ห้อที่ขายดีจัดวางชั้นบน และเอายี่ห้อรองวางชั้นล่าง
 
16. ถ้าสินค้าประเภทนั้นมีเพียงยี่ห้อเดียว ให้ดูว่าสินค้าประเภทใกล้เคียงกันในหมวดหมู่เดียวกันหรือไม่ ถ้ามีให้นำมาขายรวมหมวดกันและจัดวางตามยี่ห้อ เป็นแนวดิ่ง
 
17. ถ้าสินค้ามีหลายขนาดมาก แต่ละชั้นวางสินค้ามีเพียงไม่กี่ชั้นเราสามารถเพิ่มหรือเสริมชั้นวางสินค้าให้มีหลายชั้นได้
 
18. ถ้าเป็นสินค้าประเภทกำจัดยุงไฟฟ้า ควรวางแผ่นไว้ข้าง ๆ กันกับเครื่องยี่ห้อเดียวกัน
 
19. ส่วนที่เป็นน้ำยาฉีดกันยุงทั้งที่เป็นแบบสเปรย์และกระป๋องควรวางไว้ในกลุ่มยี่ห้อเดียวกัน และเรียงตามขนาดตามแนวดิ่ง ส่วนน้ำยาที่เป็นแบบกระป๋องเติม ให้วางไว้ชั้นล่างสุด
 
20. สินค้าประเภทผ้าอนามัย ควรแบ่งกลุ่มตามแนวดิ่ง และแยกประเภทตามยี่ห้อ
 
21. ยาสีฟัน ควรแบ่งการวางไว้ตามยี่ห้อ (ขนาดใหญ่หรือเล็กก็ควรให้อยู่ใกล้กันในหมวดยี่ห้อเดียวกัน)
 

แนวคิดที่จัดวางสินค้าเป็นแนวดิ่งนี้เนื่องเพราะหากว่าเราจัดวางโชว์สินค้าเป็นแนวนอน เวลาลูกค้าเดินเลือกหาสินค้าแล้วจะเดินผ่านไปเลยและไม่มีโอกาสที่จะเดินย้อนกลับมาเลือกซื้อสินค้าประเภทอื่นที่วางขายอยู่ที่ชั้นอื่น ๆ อีก การเลือกดูตามขนาดของสินค้าก็เพียงก้ม ๆ เงย ๆ นิดหน่อยก็สามารถเลือกได้สินค้าที่พอใจแล้ว ดังนั้นโอกาสในการขายของก็เพิ่มขึ้นเนื่องจากทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นสินค้าได้ทั่วไปนั้นเอง

โปรแกรมสต๊อกสินค้า และ โปรแกรมขายหน้าร้าน (ระบบPOS) ราคาเพียง 3,210 บาท
โปรแกรมสต๊อกสินค้า และ โปรแกรมขายหน้าร้าน (ระบบPOS) ราคาเพียง 3,210 บาท
โปรแกรมสต๊อกสินค้า และ โปรแกรมขายหน้าร้าน (ระบบPOS) ราคาเพียง 3,210 บาท

สนใจติดต่อทางเราได้ครับ หรือไลน์ @qnc3221v ตลอดเวลา ทุกวันครับผม
บริการหลังการขายเป็นกันเอง ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติมแต่อย่างใด
พร้อมอัพเดตฟรี ตลอดชีพ

www.deejaisoft.com

โปรแกรม POS อันดับ 1 ของไทย ที่มีร้านค้าใช้มากที่สุด กว่า 45,000 ร้านค้าทั่วประเทศ และ มี User Login เข้าใช้งาน jPOS Online เกิน 500,000 User ต่อวัน

แสดงความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *