การจัดโปรโมชั่น ร้านโชห่วย ร้านของชำ เพื่อกระตุ้นยอดขาย เพิ่มรายได้

การจัดโปรโมชั่น ร้านโชห่วย ร้านของชำ เพื่อกระตุ้นยอดขาย เพิ่มรายได้

การทำโปรโมชั่น นอกจากจะเป็นการเพิ่มยอดขายในระยะสั้น โดยการกระตุ้นให้ลูกค้าทำการซื้อเร็วขึ้น และซื้อในปริมาณที่มากขึ้นแล้ว

ยังสามารถใช้สร้างประโยชน์ระยะยาวได้ด้วย เช่น สร้างฐานลูกค้าเพิ่มจากการเรียกลูกค้าใหม่ ๆ ให้มาซื้อสินค้า

สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเดิม เสริมสร้างภาพลักษณ์ของร้านค้า

และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

 
.
.
การจัดโปร.ไม่ง่ายอย่างที่คิด จัดแล้วต้องโดนใจลูกค้า จัดแล้วต้องได้ผล ตามจุดประสงค์ที่เราคาดหวังเอาไว้ จัดแล้วต้องคุ้มค่า
.
การจัดโปรโมชั่นจึงจำเป็นต้องเข้าใจพฤติกรรม และแรงจูงใจของกลุ่มลูกค้า รวมทั้งควรทำการวิจัยตลาดก่อนการวางแผนปล่อยโปร
.
การปล่อยโปรโมนั้นเป็นเพียงหนึ่งในเทคนิคทางการตลาด แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือ การรักษาคุณภาพที่ดีของสินค้าและบริการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำเสนอประโยชน์ให้กับลูกค้า และก่อให้เกิดการซื้อซ้ำได้ในระยะยาว
.
.
การจัดโปร.เรามีจุดประสงค์ของจัด และเป้าหมาย เพื่ออะไร เช่น
xx เพื่อจะระบายสินค้าในสต๊อกที่มีมาก หรือขายออกช้า
เศรษฐกิจซบเซา คู่แข่งเยอะ ลูกค้าน้อย กำลังซื้อไม่มี
xx โปรแนะนำเปิดร้านใหม่
xx โปรแนะนำสินค้าใหม
xx โปรเพื่อจูงใจ เพื่อให้ลูกค้ามาซื้อบ่อยๆ และซื้อนานๆ สะสมแต้ม สะสมคูปอง สะสมแสตมป์
xx โปร.ส่วนลดสำหรับลูกค้าเก่า และ ลูกค้าชั้นดี
xx โปรเพื่อดึงลูกค้าขาจร กีดกันคู่แข่ง แย่งลูกค้าจากคู่แข่ง
xx โปรกระตุ้นให้ซื้อซ้ำ ให้ซื้อต่อเนื่อง
.
.
—————————
.
= จำกัดเวลาโปร
อย่าโปรแบบเดิมๆตลอดเวลา
อย่าลดราคาในสินค้าตัวเดิม ลดเท่าเดิม ตลอดเวลา เราต้องเปลี่ยนโปรใหม่ๆไปเรื่อยๆ ถ้าโปรอย่างเดิมตลอด ลูกค้าเห็นบ่อยๆ จะกลายเป็นความเคยชินจนไม่รู้สึกตื่นเต้นอีกต่อไป และเขาจะคิดว่า ซื้อเมื่อไรก็ได้ อย่างไรก็ได้ส่วนลด ก็ได้โปรแบบนี้ เหมือนเดิม
โปรที่มีเวลาจำกัด จะทำให้ลูกค้ารีบซื้อ เพราะกลัวจะหมดเวลา จะซื้อไม่ทัน
.
= โปรลดราคา
เทคนิคนี้ง่ายๆ ตรงตัวเลย คือ ลดราคาสินค้า ไม่ว่าจะเป็นลดราคาเป็นเปอร์เซ็นต์ หรือลดราคาเป็นบาท เช่น ลด 10% หรือ ลดราคา 100 บาท โปรโมชั่นรูปแบบนี้เป็นโปรโมชั่นทั่วๆ ไปที่ใช้ในท้องตลาด ทำได้เรื่อยๆ แต่อาจจะไม่สร้างความตื่นเต้นมากนัก ถ้าทำเป็นประจำ หรือส่วนลดไม่มากพอ
.
การลดราคา หลายคนอาจนึกถึงคำว่าลดราคา แต่จริงๆ แล้ว การลดราคาอาจไม่ตอบโจทย์เสมอไป เพราะการลดราคาอาจดึงดูดเฉพาะลูกค้าที่ “อ่อนไหว” เรื่องราคาให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น ขณะที่ลูกค้ากลุ่มเดิมที่เป็นลูกค้าประจำก็อาจกังวลเรื่องคุณภาพว่าจะด้อยลง
ดังนั้นการลดราคาจึงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการกระตุ้นยอดขาย
.
= โปรโม ของแถม (Premium)
เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ผู้ขายส่วนใหญ่นิยมใช้กันของแถมอาจจะเป็นสินค้าตัวมันเอง สินค้าอื่น หรือเป็นของแถมอื่นๆ ก็ได้ค่ะ เช่น ถุง แก้ว กระเป๋า กล่อง ฯลฯ สำหรับโปรโมชั่นนี้อย่าลืมเลือกของแถมให้โดนใจลูกค้านะ จะมีโอกาสเพิ่มยอดขายให้กระฉูดได้ง่ายๆ เลย
.
= โปรโม ยิ่งซื้อมาก ยิ่งประหยัดมาก
เทคนิคนี้ช่วยจะให้ลูกค้าเพิ่มปริมาณการซื้อ เช่น ซื้อ 2 ชิ้นลด 50 บาท, ซื้อ 3 กล่องประหยัดทันที 100 บาท แนะนำว่าถ้าสินค้าจัดรายการโปรโมชั่น มีหลายกลิ่น หลายสูตร หลายรส ควรจัดรายการให้ซื้อคละกันได้ด้วย ลูกค้าเห็นโปรโมชั่นแบบนี้ต้องอยากซื้อมากกว่า 1 ชิ้นแน่นอน
.
= โปร แนะนำสินต้าใหม่
อาจจะมีการลดราคาพิเศษ สินค้าทดลองใช้
สินค้าใหม่ ร้านอื่น คู่แข่ง อาจจะยังไม่การนำมาขาย ถ้าเราเป็นเจ้าเดียวที่มีสินค้าตัวนี้มาขาย และถ้าเกิดขายดี กำไร หลังจากลูกค้าได้นำไปลองใช้แล้ว เกิดถูกใจ กลับมาซื้อใหม่อีก ก็เตรียมตัวเหนือคู่แข่งได้เลย
.
= โปรสะสมแต้ม สะสมคูปอง แสตมป์
เทคนิคนี้เหมาะมาก ถ้าอยากให้ลูกค้าขาจรกลายเป็นลูกค้าประจำ กลับมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการบ่อยๆ ลูกค้าประจำที่เคยมาซื้อของน้อย ก็จะมีการซื้อมากขึ้นเพียงแค่เราสร้างระบบสมาชิก หรือโปรแกรมสะสมแต้มรับส่วนลด แลกของรางวัล แค่นี้ก็ตอบโจทย์แล้ว
.
โปรนี้ อาจนำมาใช้สะสมตามแต้มที่เรากำหนดเอาไว้ ว่าแสตมป์เท่าไหร่ เอามาใช้แลกอะไรได้บ้าง เช่น แลกของแถม แลกส่วนลดสินค้าเมื่อมาซื้อในครั้งต่อไป แลกซื้อสินค้าในราคาพิเศษ แลกบัตรชิงโชค แลกบัตรสมาชิก
แสตมป์ คูปอง ควรกำหนดเงื่อนไขให้ชัดเจน เช่น ซื้อเท่าไหร่ ถึงได้ คูปอง แสตมป์
สินค้าที่งดจ่าย คูปอง แสตมป์
แลกเป็นเงินสดไม่ได้
กำหนดเวลาหมดโปร
= โปรแลกซื้อ
หลักการง่ายๆ คือ ซื้อครบ xxx บาท มีสิทธิ์แลกซื้อสินค้าอื่นในราคาที่ถูกลง เช่น ซื้อสินค้าครบ 500 บาท สามารถแลกซื้อ—-ในราคา 79 บาท จากปกติราคา 299 บาท
สินค้าแต่ละอย่าง เราต้องคำนวณให้เป็น ว่าจะลดได้เท่าไหร่ โดยคุ้มค่า กำไร ไม่ขาดทุน
โปรโมชั่นนี้เราต้องเลือกสินค้าแลกซื้อให้น่าสนใจ และตั้งราคาแลกซื้อให้โดนใจด้วย
= โปร ซื้อ 1 แถม 1
ง่ายๆ ตรงตัวเลยค่ะ ซื้อ 1 ชิ้น แถม 1 ชิ้น หรือสินค้าที่เราสามารถ ลดราคา 50% ได้นั่นเอง โปรโมชั่นแบบนี้แนะนำให้นานๆ ทำครั้ง
เพื่อสร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นยอดขาย ไม่ควรเป็นโปรโมชั่นที่ทำประจำ เพราะถ้าวันใดหยุดทำโปรโมชั่นนี้ ยอดขายจะหายฮวบไปอย่างน่าตกใจเลย
.
= โปร ชิงโชค ชิงรางวัล
สังคมไทยเป็นสังคมชอบเสี่ยงโชค ดังนั้นการออกโปรโมชั่นลุ้นโชค อาทิซื้อสินค้าครบตามยอดที่กำหนด ได้รับสิทธิในการลุ้นรับของรางวัลใหญ่ หรือสิทธิพิเศษที่เงินสดไม่อาจจะซื้อได้ ซึ่งของรางวัลที่นำมาล่อตาล่อใจนั้นจะต้องมีมูลค่าและโดนใจลูกค้า จะยิ่งช่วยกระตุ้นยอดซื้อได้เป็นอย่างดี คิดซะว่าเราคืนกำไรให้ลูกค้าแล้วกัน ไม่ต้องคิดอะไรมาก
สมมุติว่าเรามีกำไร เฉลี่ย วันละ 1พันบาท = 1พัน x 1ปี = 365,000บาท กำไร 1ปี เราจะคืนกำไรให้ลูกค้า กี่เปอร์เซ็นต์
ถ้าคืน 5% ก็= 18,250 เราก็เอา 18,250 มาเฉลี่ยซื้อของรางวัลให้ได้หลายๆรางวัล
.
= โปรนาทีทอง
การจัดโปรโมชั่นแบบลดราคานาทีทอง ซึ่งเป็นวิธีการลดราคาสินค้าในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อดึงให้ผู้ซื้อเข้ามาซื้อสินค้าในช่วงเวลาที่กำหนด
โดยราคาสินค้าในช่วงเวลานาทีทองจะถูกกว่าราคาปกติถึง 30-50%
และมีการกำหนดปริมาณของสินค้าจำนวนจำกัด แต่วิธีการจัดโปรโมชั่นแบบนี้ ตัวสินค้าต้องมีความน่าสนใจอยู่ตัวเองอยู่แล้ว
การจัดโปรที่นำมาให้ดูนี้ แค่เป็นแนวทาง เป็นตัวอย่าง ของการจัดโปร
การจัดโปร เราคิด ออกแบบ ตามรูปแบบของเราเองได้ก็จะดี จะได้ไม่ซ้ำ ไม่เหมือนกับใคร ให้น่าเบื่อ
เอ่อเมื่อจัดโปร การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ต้องให้ปัง ปัง ไปด้วยนะ ไม่งั้นโปรเราจะตกม้าตายไปแบบน่าเสียดาย
——————————————————-
.
เทคนิคในการเลือกของแจก ของแถม ของชิงโชค
เคยมั้ยคะเวลาจะทำโปรโมชั่นของแถมแต่คิดไม่ออกจะแถมอะไรดี??
แก้ว ถัง กะละมัง กล่อง ก็แถมมาหมดแล้ว
แถมจนลูกค้าชักเฉยๆ ไม่ตื่นเต้นละ
การเลือก ของแจก ของแถม มันต้องให้โดนใจผู้รับด้วย การจัดโปร ก็ต้องให้โดนใจ ให้มีเงื่อนไขที่ลูกค้าจะได้ ไม่มากเกินไป ไม่ใช่ต้องซื้อของเยอะ ตั้ง 1พัน แต่ได้แค่แก้วน้ำใบเดียว แล้วใครเขาอยากจะสน อยากจะได้
การเลือกของแจก ของแถม มันต้องโดนใจ ต้องให้ลูกค้าอยากจะได้ ก็เหมือนกับเราเอาสินค้าใหม่ๆมาขายในร้าน ถ้าไม่โดนใจลูกค้า ก็เจ๊ง เพราะขายไม่ออก
ดังนั้น อย่าไปนึกว่าเอาของอะไรมาแจด็ได้ เพราะลูกค้าได้ไปฟรี คิดแบบนี้ไม่ได้นะ โปรเราจะไม่มีใครสนใจแน่ๆ
.
ลองปรับใช้ เทคนิคนี้ คิดไอเดีย ของแจก ของแถม ของชิงโชคกัน.
1. เลือกให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
ข้อนี้สำคัญมากเราต้องรู้ก่อนว่าใครคือ shopper (คนซื้อ)
เพราะของแถมกำลังทำหน้าที่ดึงดูดความสนใจ shopper
.
ถ้าเป็นสินค้าเด็ก แต่เด็กไม่ได้มา คุณแม่มาแทนบางทีของแถมก็ต้องดึงดูดใจคุณแม่ด้วยนะ
.
แต่ถ้าเด็กมาเดินด้วยของแถมต้องเปลี่ยนเป็นโดนใจวัยคุณหนูเด็กเห็นปุ๊บ ร้องเรียกแม่จ๋าเอาอันนี้ทันที!.
.
2. แปลกไม่ซ้ำใคร หรือ มีลูกเล่นใหม่ๆให้ตื่นเต้น
บางครั้งลูกค้าก็เบื่อกับโปรโมชั่นของแถมเดิมๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ซื้อกี่ครั้งก็ได้ของแถมประมาณนี้ไม่ดึงดูดใจให้ซื้อเพิ่มเอาซะเลย
ลองคิดไอเดียใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้ว้าววว
.
ตัวอย่างที่สนใจ คือซอสหอยนางรมแม็กกี้ แถมตุ้มหูมุก โอ้โห ฮือฮาแบบคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว
.
หรือ สมัยเด็กๆ ที่โกโก้ครันซ์ แถมช้อนเปลี่ยนสีได้ตามอุณภูมิ เด็กๆ ตื่นเต้นฮือฮากันจริงอะไรจริง
.
3. ของแถมแบบเดิม เพิ่มเติมคือ collection
ถ้าเรานั่งคิด นอนคิด แล้วว่าเฮ้ยยังไงต้องแถมแก้วเพื่อไม่ให้ลูกค้าเบื่อกับแก้วแบบเดิมๆ
เราลองทำเป็นลวดลายให้สะสมเป็น collection ดีมั้ย
อาจจะเลือกให้เข้ากับเทศกาล หรือทำลวดลายสวยๆ คู่ควรแก่การสะสม
ลูกค้าบางคนเป็นนักสะสม เหมาเรียบทุกลาย ทุก collection กันเลยทีเดียว
.
ดูอย่างแก้วสตาร์บัคสิคะ
เพื่อนแอนนี่หลายคน จัดไปเกือบทุกแบบค่า
แม้ที่บ้านจะสะสมกองพะเนินก็ตาม
.
4. ของแถมสามารถนำมาใช้งานคู่กับสินค้าที่จัดโปรโมชั่น
ถ้าสินค้าที่เราขายยังไง้ ยังไง ก็ต้องใช้คู่กับสินค้าอีกตัวนึง หรืออย่างน้อยเป็นสินค้าที่เสริมการใช้งานกัน
เราก็จัดให้เป็นของแถมซะเลย
ลูกค้าจะรู้สึกว่าคุ้ม ซื้อครั้งเดียวครบ จบตามความต้องการ
เช่น ซื้อรองเท้านักเรียนแถมถุงเท้านักเรียน
โทรศัพท์มือถือแถมขาตั้งกล้อง หรือ ไม้เซลฟี่
น้ำยาเช็ดเครื่องสำอาง แถม สำลีเช็ดหน้า เป็นต้น
เทคนิคแบบนี้ แค่เป็นตัวอย่าง แค่เป็นแนวคิดนะ เราเอามาคิดเอง ดัดแปลงเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำตามแบบของเขา
———————————————————-
1. เราต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างการส่งเสริมการขาย (ทำเพื่อเพิ่มยอดขาย) กับ การแก้ปัญหายอดขายตก (ของขายไม่ออก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าบางตัวหรือทั้งร้าน) ออกจากกันก่อน เราชอบเอา 2 กลยุทธ์เรื่องนี้มาปนกัน และใช้วิธีเดียวกันทำคือลดราคา
จริงๆ แล้ว 2 เรื่องนี้มันคนละเรื่อง แบบคนละโลกเลยนะครับ และจะใช้กันคนละสถานการณ์ด้วย คนชอบสับสนเพราะวลีที่ว่า “ลด แลก แจก แถม” นี่ล่ะ เอามาพูดติดๆกันเลยทำให้อะไรๆมันปนกันไปหมด
การทำโปร คือการทำเพื่อเพื่อเพิ่มยอดขาย เราจะทำกับสินค้าที่ขายได้ดีอยู่แล้วเพื่อให้เค้าซื้อมากขึ้น (จ่ายเงินมากขึ้น) เพราะคนมีความชอบสินค้าตัวนั้นอยู่แล้วเป็นทุน โดยการทำโปรฯวิธีต่างๆกันไป แต่จะไม่ใช้การลดราคากับการซื้อสินค้าชิ้นนั้น เพราะคุณกำลังจะลดคุณค่าของตัวสินค้าขายดีในร้านของคุณ
เตือนตัวเองไว้เสมอนะครับว่าของอันไหนขายดีอยู่แล้ว คุณต้องรักษาคุณค่าของมันเอาไว้แบบนั้นให้นานที่สุด การทำโปรฯจึงควรทำด้วยวิธีอื่น เช่น เพิ่มปริมาณ มีของแถม ถ้าอยากเล่นราคา ให้ใช้วิธีบังคับซื้อเพิ่มมากกว่า 1 ชิ้น (คุณได้เงินเพิ่ม) เช่น ของชิ้นละ 10 บาท แต่ถ้าซื้อ 2 ชิ้น เหลือ 18 แบบนี้ถือว่ายังโอเคอยู่ การไปลดราคาเมื่อซื้อตั้งแต่ชิ้นแรก คือการลดค่าเงิน สินค้าตัวนั้นไปแล้ว และจะกลับมาขายราคาเต็มอีกลำบากมาก
ส่วนเหตุผลที่ไม่ควรจัดโปรฯกับของขายไม่ดีก็เพราะว่า ตัวมันเองลูกค้าไม่ได้อยากซื้ออยู่แล้ว เพราะเค้าอาจเห็นว่าคุณภาพไม่สมราคา หรือเหตุผลอื่นๆ ดังนั้นการแก้ปัญหาเรื่องนี้จึงไม่ได้แก้ด้วยการจัดโปรฯ จัดไปยังไงผลตอบรับมันก็น้อยกว่าแน่นอน
ยกตัวอย่างเวลาที่นมวัวล้นตลาด รัฐบาลต้องการให้ภาคเอกชนช่วย รัฐบาลก็ต้องมาคุยกับผู้ผลิตหรือแบรนด์ใหญ่ๆก่อนเลยเช่นโฟร์โมสต์ ดัชมิลล์ให้กระตุ้นตลาด เพราะพวกนี้มีกำลังและมี demand ของผู้บริโภครออยู่แล้ว หรือแม้กระทั่งกรณีของ 7-11 เราจะไม่เคยเห็นเค้าเอาของขายกลางๆมาทำโปรฯ (นับเฉพาะของที่เป็นของ 7-11 เองนะครับ)
มุมมองอีกด้านนึงบ้าง สำหรับของขายไม่ดีนั้น เราควรจัดการมันยังไง
คุณต้องมองว่าสินค้าที่ขายไม่ดี คือสินค้าที่มีปัญหา ดังนั้นการลดราคาลงเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น (คุณค่าเหมาะกับราคามากขึ้น) จึงเป็นทางออกเดียวสำหรับของขายไม่ได้ และก็เป็นวิธีเดียวกันที่ใช้จัดการพวกของใกล้หมดอายุ มีตำหนิ หรือตกฤดูกาล คือทำให้มันขายออกไปให้เร็วที่สุด เพราะถ้าเหลือในร้าน มันคือภาระ เวลาเหลือทิ้ง เราจะเสียเงินเต็มมูลค่า สู้เอามาลดๆราคา ไล่ของออกไปเร็วๆยังดีกว่า

คงพอแยกออกแล้วนะครับ ว่าการเพิ่มยอดขายกับ การแก้ยอดขายตก มันต่างกันยังไง และควรใช้วิธีไหนในสถานการณ์ใดบ้าง

ระบบร้านขายของชำ โปรแกรมร้านค้าปลีกค้าส่ง Online ราคาเพียง 3,210 บาท
โปรแกรมร้านค้าปลีก ค้าส่ง ราคา 2,000 บาท ใช้งานง่าย บริการหลังการขายฟรี มีครบทั้งระบบขาย สต๊อกสินค้า บัญชี สร้างบาร์โค้ด รายงานยอดขาย ฯลฯ เพิ่มรายการสินค้าได้ไม่จำกัด อัพเดทโปรแกรมฟรีตลอดชีพ
โปรแกรมร้านค้า โปรแกรมขายสินค้า โปรแกรมบาโค้ด โปรแกรมสต๊อกสินค้า โปรแกรมขายหน้าร้าน ราคาเพียง 2,000 บาท POS Online

สนใจติดต่อทางเราได้ครับ หรือไลน์ @qnc3221v ตลอดเวลา ทุกวันครับผม
บริการหลังการขายเป็นกันเอง ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติมแต่อย่างใด
พร้อมอัพเดตฟรี ตลอดชีพ

www.deejaisoft.com

โปรแกรม POS อันดับ 1 ของไทย ที่มีร้านค้าใช้มากที่สุด กว่า 45,000 ร้านค้าทั่วประเทศ และ มี User Login เข้าใช้งาน jPOS Online เกิน 500,000 User ต่อวัน

แสดงความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *