ถึงเวลาที่คุณและคนที่คุณรักต้องมีประกันชีวิตแล้วหรือยัง?

#ถ้าสมมุติว่ามันเกิดกับคุณล่ะ
#เกิดกับครัวคุณล่ะ
#เกิดกับคนที่คุณรักล่ะ
“ทิ้งคำถามไว้ตัวโตๆ ว่า #จะทำอย่างไร?

#มันจะมีสักกี่คนที่ช่วยเราได้
**ญาติสนิท มิตรสหาย ที่รักกันมากๆ
หากเราเดือดร้อน เกิดการสูญเสียเสีย
#กับครอบครัวเรา หรือ #กับเรา
#พวกเขาช่วยเราได้แค่ไหน?
#พวกเขาช่วยเราได้ตลอดจริงหรือเปล่า?
#เราพึ่งพาใครได้บ้าง?

*** หากครอบครัวเราเดือดร้อน หรือมีการสูญเสีย ***
ที่เห็นๆมา
**ใส่ซองช่วยงานศพ ถึง 2,000 หรือเปล่า?
**ยื่นมือช่วยเหลือให้หยิบยืมเงิน ถึง 3 ครั้งหรือเปล่า?
**พอไปถามหยิบยืมเงิน พอไม่ให้ เขาไม่ช่วยเหลือ ก็กลายเป็นว่า ญาติทะเลาะกันเอง เพื่อนฝูงผิดใจกัน #มันเป็นความจริงใช่มั้ย?
**พอเสร็จงานศพ
>>จะมีกี่คนที่จะถามเราว่า “จะใช้ชีวิตกันต่อไปอย่างไร?”
>>จะมีกี่คนที่จะถามเราว่า “วางแผนต่อไปอย่างไร?”
>>จะมีกี่คนที่จะพบอกเราว่า “ถ้ามีอะไรเดือดร้อน หรืออยากให้ช่วยเหลืออะไร? บอกได้น่ะ”

#วันนี้เรา
*ยังแข็งแรง
*ยังมีงานทำ มีเงิน มีรายได้
*ยังมีความสามารถในการทำงาน ยังมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับคนที่เรารัก ครอบครัวที่เรารัก ธุรกิจของเราได้อยู่
*ยังคงปกป้องคนที่เรารัก ครอบครัวที่เรารัก ได้อยู่ และป้องกันได้เป็นอย่างดี

#แต่ถ้าวันใดวันหนึ่ง
“สวรรค์เล่นตลกกับเรา ให้เราตลกไม่ออก “
“เทวดาดันมาพาเราไปสวรรค์ “

“ถ้าเราไม่ได้เตรียมการไว้ เกิดอะไรขึ้นมา เราจะยังปกป้องคนที่เรารัก ครอบครัวที่เรารัก ธุรกิจของเรา ไว้ได้อย่างไร?”

#ครอบครัวที่คุณรักคนที่คุณรักถ้าคุณไม่ปกป้องสร้างหลักประกันป้องกันไว้แล้วใครจะปกป้อง
#ถ้าคุณไม่ปกป้องคนที่คุณรักครอบครัวที่คุณรักวันนี้. #แล้วเมื่อไหร่คุณถึงจะปกป้องพวกเค้า
#วันนี้คุณยังสามารถปกป้องพวกเขาได้อยู่และทำได้ดีแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง
#คุณอาจจะมองว่าไม่จำเป็นไม่สำคัญเพราะคุณยังอยู่
#หากคุณไม่ได้อยู่ ไม่ได้ปกป้อง ไม่ได้อยู่แก้ปัญหา เหมือนทุกครั้ง จะเกิดอะไรขึ้น? ปลอดภัยหรือเปล่า?

#หลายๆครอบครัวที่ยังใช้ชีวิตแบบลำบากดิ้นรนอยู่
**ไม่ใช่ว่าพ่อกับแม่ไม่รัก
**ไม่ใช่ว่าพ่อกับแม่ไม่เก่ง
**ไม่ใช่ว่าพ่อกับแม่ไม่วางแผนไว้ให้
**ไม่ใช่เพราะโชคชะตาฟ้าลิขิต
**ไม่ใช่เพราะเวรหรือกรรมใดๆ

“เพราะพวกท่านมีความรักให้เต็มร้อย ยอมทุ่มเท ยอมลำบาก ยอมเหนื่อย สู้ด้วยใจ ไม่เคยท้อ เมื่อเจอปัญหา ท่านอยากเห็นทุกคนมีชีวิตที่ดี มีคุณภาพ ไม่ต้องมาลำบากเหมือนท่าน ทั้งนั้น
#แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกท่านลืมไปคือ
#ท่านลืมเติมคำว่า ”มั่นคง” ลงไปต่อท้ายคำว่า”รัก”

หลายคนอาจเรียกการทำประกันชีวิตว่า”#กรมธรรม์”
แต่สำหรับผม ผมเรียกมันว่า “#สัญญาแห่งความรักที่เป็นรูปธรรม”
*ที่จะเปลี่ยนเป็นหลักประกันที่แน่นอนและมั่นคง เป็นเงินก้อนโต เพื่อเอาไว้ปกป้อง เป็นเกราะไว้ป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ให้กับคนที่เรารัก ครอบครัวที่เรารัก ธุรกิจที่เราสร้างมากับมือ

*สัญญาแห่งความรักนี้ไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว
“สัญญาแห่งความรักนี้ “เจ้าหนี้” ไม่สามารถมาเรียกร้องใดๆได้ ตามกฏหมาย
*สัญญาแห่งความรักนี้ จะเปรียบเสมือนตัวคุณเองได้ปกป้องคนที่คุณรัก ครอบครัวที่คุณรัก ธุรกิจที่คุณสร้างมากับมือ ให้มั่นคงและมีคุณภาพ ด้วยตัวคุณเอง

#แม่หม้าย #แม่เลี้ยงเดี่ยว พวกเธอต้องต่อสู้ ดิ้นรน ลำบาก
แค่ไหน? พวกเธอเหนื่อยแค่ไหน? พวกเธอต้องเข้มแข็งแค่ไหน?

#พ่อหม้าย #พ่อเลี้ยงเดี่ยว พวกเขาต้องเก่งแค่ไหน? พวกเขาต้องอดทนแค่ไหน?

#พ่อแม่ที่ไม่มีลูกๆดูแล พวกท่านจะอยู่อย่างไร?ใช้ชีวิตอย่างไร?
พวกท่านต้องโดดเดี่ยวแค่ไหน?

#ลูกๆที่ต้องกำพร้าพ่อ #กำพร้าแม่ พวกเขาจะเติบโตอย่างไร? มีชีวิตที่ดีและมีคุณภาพได้ยังไง

“#ถ้าไม่มีคุณ”

#สิ่งต่างๆเหล่านี้
**หากมันคือสิ่งที่คุณยังกังวลใจ
**หากมันคือปัญหาที่คุณอยากหาทางแก้ไข
**หากมันคือสิ่งที่คุณไม่อยากแบกไว้คนเดียว

#โยนสิ่งที่คุณกังวลใจ สิ่งที่เป็นปัญหา มาให้ผมได้ช่วยคุณ ได้เอาปัญหาของคุณ กลับไปให้บริษัทแบกรับแทนคุณ

#ถามใจคุณดู
>> ถึงเวลาที่คุณและคนที่คุณรักต้องมีประกันชีวิตแล้วหรือยัง?
>> คุณและคนที่คุณรักต้องได้ทำประกันชีวิต

#คุณอยากได้
“พวงหรีดที่ระบุชื่อคุณกับซองช่วยงานไม่กี่บาท”
หรือ คุณสามารถ “สร้างสัญญาแห่งความรักที่จะเปลี่ยนเป็นเช็คเงินสดหลายสิบล้าน ไว้ให้คนที่คุณรัก ครอบครัวที่คุณรัก”

หันไปมองดู
#ลูกๆที่คุณรักดั่งแก้วตาดวงใจ
#คนที่คุณรักและครอบครัวที่คุณรัก
#แล้วตอบตัวเอง!