หาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชีวิต

เรื่องราวที่จะมาเล่าต่อไปนี้ เกิดขึ้นจริง และเป็นเรื่องของเราเอง ว่าด้วยการหาเงิน 1 ล้านบาทแรก ตอนที่เราเพิ่งจะอายุครบ 26 ปีไปหมาดๆ (ซึ่งมันก็ผ่านมานานหลายปีแล้วนะ) เราอยากจะแชร์ความรู้สึกของการหาเงินล้านบาทแรก และความเข้าใจที่พูดกันต่อมาว่า เมื่อหาเงินหนึ่งล้านบาทแรกแล้ว ล้านต่อๆไปจะเป็นเรื่องง่ายขึ้น (จริงหรือ)

.

เเรกเริ่มเดิมที เราเริ่มหัดลงทุนในหุ้น โดยแต่เดิม เราเป็นคนที่เข้าออกตึกตลาดหลักทรัพย์ และห้องสมุดมารวยมาตั้งแต่ปี 2008 มีหนังสือที่เกี่ยวกับหุ้นไม่ว่าจะกี่เล่มต่อกี่เล่มที่ออกใหม่ หรือหนังสือที่ออกมานานแล้วแต่เราไม่เคยเห็น เราก็จะรีบเข้าไปยืมอ่าน ทั้งอ่านฟรีและซื้ออ่าน พอเรียนจบก็สมัครพอร์ทหุ้นเอาไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร ล่วงเลยเป็นระยะเวลายาวนานพอสมควร จึงเริ่มมาเล่นหุ้นเอาตอนปี 2012 ซึ่งมารู้เอาตอนหลังว่า จะฉลาดกว่านี้มากอ่ะ ถ้าลงทุนตั้งแต่ช่วงปี 2008–2009

.

จะบอกว่า เราเป็นคนที่ใช้เวลาเรียนหนังสือนานมาก ทุกช่วงของการลงทุน เลยเกี่ยวข้องกับการเรียนหนังสือ คือเรียนจบแล้วทำงานแป็ปเดียว ก็กลับเข้าไปในระบบการเรียนใหม่ อะไรอย่างงี้ ปี 2012 เราเรียนหนังสืออยู่ต่างแดน ณ ประเทศอันไกลโพ้น แต่เรานึกยังไงไม่รู้เราลองลงทุนในหุ้น ครั้งแรกเราขาดทุนไปหลักแสน (เราใช้เงินเก็บในการเล่นหุ้น) เราเข็ดเลย คิดในใจว่าชาตินี้จะไม่เล่นหุ้นอีกแล้ว ฮือ ปรากฎว่า พอเห็นราคาหุ้นขึ้นเอาๆ เราเลยลงไปลงทุนในตลาดใหม่ (ซึ่งมันก็ไม่ใช่วิธีที่ฉลาดอีก) แต่จะด้วยโชคหรืออะไรก็ตามแต่ เราลงทุนไปปีนั้น ได้กำไรมา 1 ล้านบาท (แต่ก่อนหน้านั้นหุ้นตก คือจริงๆ กำไรสองล้าน แต่ทำไปทำมาเหลือล้านเดียว) เงินมันเป็นเงินออนไลน์เนอะ หมายความว่าเราเห็นแค่ตัวเลขที่วิ่งๆไปในพอร์ท เป็นสภาวะ cashless ไม่ได้จับเงินจริงๆ คือเรารับรู้ว่ากำไรมันเท่ากับ หนึ่งล้านบาท แต่เราไม่ได้มีความรู้สึกอะไร จำได้ว่าเขียนไดอารี่ ว่าวันนี้หาเงินได้เองแล้วล้านนึง จบ

.

ทีนี้เหมือนอะไรเข้าสิง เราก็ได้กำไรมาตลอดจากการเล่นหุ้น แต่เป็นคนถือหุ้นสั้น คือไม่เกินสามปีเราจะขายทิ้ง และมีหุ้นหลายตัวที่เราขายทิ้งในระยะเวลาไม่กี่เดือน ซึ่งจะบอกว่า รู้งี้….คือเสียดายหุ้นหลายตัวมาก มันไปไกลแล้ว เราแค่อดทนถือไว้เฉยๆน่าจะดีกว่า T_T
และแล้ววันแห่งหายนะก็มาถึง เราลงทุนผิดพลาด ดันไปถือหุ้นตัวที่มีข่าวไม่ดี โอ้ยๆ ตกลงเลยขาดทุนไป วันเดียว 1.5 ล้านบาทในปี 2016 เลือกที่จะคัทลอสแบบเจ็บแต่จบ (เจ็บจุงเบย) จำได้ว่าเศร้ามาก นี่ขนาดไม่ได้ขาดทุนเงินต้นนะ ขาดทุนกำไร…..แต่กำไรสามปีของเราหายไปภายในเสี้ยววินาทีที่ขายหุ้นนั้น T_T ขายเสร็จราคาขึ้นจ้าาาาา ให้มันได้อย่างนี้!

.

สรุปสั้นๆนะ เราว่าลงทุนระยะยาว เป็นอะไรที่ดีที่สุด ไม่ต้องห่วงว่าราคามันจะสวิงไปมา เพราะถ้าหุ้นที่คุณถืออยู่มันพื้นฐานดี ยังไงราคามันก็ต้องกลับมา หรือถ้าไม่กลับมา ยังไงก็ยังมีปันผล ปัจจุบันเรายังคงลงทุนในหุ้น ลุ่มๆดอนๆ แต่ถือว่าเป็นการลงทุนที่ในระยะยาวแล้วดีที่สุด แต่หลังจากนั้น จนวันนี้ (หนึ่งปีผ่านไป) ยังไม่เคยจับเงินล้านที่สองจากการลงทุนในหุ้นได้อีก เพราะลดความเสี่ยง ลดจำนวนเงินที่ลงทุนในหุ้น หันไปกระจายความเสี่ยง ด้วยการฝากเงินผ่านสหกรณ์, LTF, และประกันชีวิต (เอิ่ม แต่ส่วนตัวไม่แนะนำประกันชีวิตนะ เพราะว่ามันได้ผลตอบแทนต่ำมาก แต่พอดีหลวมตัวมาเเล้ว เลยต้องจ่ายเงินต่อไปเรื่อยๆ อีกสิบปีจะเป็นไทย)

ขอจบบทความนี้แบบดื้อๆเลยก็แล้วกัน สรุปว่า เงินล้านที่สองก็ไม่ได้หาง่าย แล้วล้านบาทแรกที่เราหาได้มา ก็มาหักลบกลบหนี้ไปกับช่วงที่เราขาดทุนกำไร สรุปแล้วตั้งแต่เล่นหุ้นมา มีกำไรประมาณ 1 ล้านบาท ไม่รู้สึกอะไร รู้แต่ว่าเพราะความอดทนน้อย และความใจใหญ่ ทำให้ชีวิตการลงทุนขึ้นๆลงๆเช่นนี้ ต่อไปจะปรับปรุงตัวให้มากขึ้นน่ะจ้ะ